Article1-Threesoon Kesorn

on June 12, 2024

9 ตำนานแห่งเมืองเพชรบูรณ์ ฉบับแปลไทย-จีน ตอน “ตำนานเจดีย์ลอย”

          พระอธิการมี อภิชาโต เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เจดีย์ลอยศักดาราม ตำบลบ้านโภชน์ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เผยแพร่ตำนานเล่าขานความศักดิ์ของเจดีย์ลอย เนื่องจากชาวบ้านที่พากันไปกราบไว้ขอพรสิ่งใดก็มักสำเร็จสมปรารถนา เจดีย์ลอยจึงถือเป็นมรดกล้ำค่าคู่บ้านโภชน์ เมืองเพชรบูรณ์
          จากหลักฐานอิงประวัติศาสตร์ขององค์พระเจดีย์ พบว่าองค์พระเจดีย์มีอายุ การสร้างนานกว่าหลายร้อยปี (ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในยุคสมัยใด) ตามคำบอกเล่าของปู่ ย่า ตา ยาย ที่สืบทอดกันมาว่า แต่เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างก่อสร้างมานานหลายร้อยปี จนกระทั้งในราว พ.ศ. 2385 ได้มีพระภิกษุสงฆ์เข้ามาอยู่ ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันก่อสร้างองค์พระเจดีย์ขึ้นภายในบริเวณวัด ขณะที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันช่วยกันขนปูน ทราย อิฐ จากเตาเผาที่ผลิตขึ้นเองในสมัยนั้นเพื่อใช้ในการสร้างเจดีย์อยู่นั้น ก็ได้เกิดอาเพศขึ้น อากาศเกิดความแปรปวน ท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน โดยกะทันหัน เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว ชาวบ้านไม่สามารถออกจากบ้านไปทำมาหากินได้ เมื่อท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสเป็นปกติสิ่งที่ปรากฎฏให้ชาวบ้านเห็นก็คือ องค์พระเจดีย์ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ลอยขึ้นสูงขนาดที่กลองเพลใบย่อมสามารถกลิ้งผ่านไปผ่านมาได้ องค์พระเจดีย์ปรากฎขึ้นอย่างสวยงามสมบูรณ์แบบเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้ชาวบ้านพากันโจษขานว่า “เทวดาสร้างให้เป็นสมบัติคู่บ้านโภชน์ คู่เมืองเพชรบูรณ์” กาลเวลาร่วงเลยไป องค์พระเจดีย์ลอยนั้นได้ถูกภัยธรรมชาติชะล้าง และดินหินทรายได้เกิดการทับถมขึ้นทำให้ฐานขององค์พระเจดีย์ที่ลอยเหนือพื้นดิน ขนาดพอให้กลองเพลใบย่อมกลิ้งผ่านไปมาเหลือเพียงแค่ให้แม่ไก่เข้าไปอาศัย
          จากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาจากผู้สูงอายุ คนยากคนจนขัดสนเงินทองพากันมาอาศัยพึ่งเงินและทองที่อยู่ใต้ฐานองค์เจดีย์ ยืมไปจ่ายถึงเวลาก็นำกลับมาคืนเข้าที่เดิม ต่อมาคนเกียจคร้านที่ไม่ยอมทำมาหากินได้หยิบยืมเงินทองที่อยู่ใต้ฐานขององค์พระเจดีย์ลอยไปใช้ในทางที่ผิด เช่น เล่นการพนัน ดื่มสุรา เมื่อถึงเวลานัดแล้วไม่ส่งเงินคืนอย่างเดิม ตั้งแต่นั้นมาองค์พระเจดีย์ก็จมลงใต้ดินมาตราบถึงปัจจุบันนี้ และเมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุก ๆ ปี ชาวบ้านจะพากันทำบุญตักบาตร จัดมหรสพสมโภช สรงน้ำองค์พระเจดีย์และเปลี่ยนผ้าสามสีที่ห่มองค์เจดีย์เป็นประจำทุกปี

ภาพโดย นางสาวพัชราภา ยิ้มบุญ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มรภ.เพชรบูรณ์ รหัส 641102206121

罗伊宝塔位于碧差汶府，农派县，班坡镇。杰迪罗伊寺方丈名叫弥·阿披差多大师，向我们讲述了罗伊宝塔是如何的神圣。罗伊宝塔是碧差汶班坡镇的宝贵遗产（“罗伊宝塔”意为漂浮在空中的宝塔），宝塔如此神奇引得人们都纷纷到来向宝塔礼拜和许愿，希望愿望都能实现。
根据考古与历史遗留的证据，发现该塔建造的历史已经有好几百年了。（由于建造年代不明）据爷爷奶奶辈人传说该寺本来是个已经建造了好几百年的荒寺，直到公元1842年，才有和尚搬进来居住，因此，村民们才共同在寺院内修建了塔身的部分。当村民还在同心协力地修建寺庙之时，有一天天气骤变，连续三天三夜天昏地暗，雷声震耳欲聋，甚至影响到村民们都无法出门干活谋生。当天气恢复正常后，出现在村民们面前的景象是该宝塔竟然自行漂浮在地面之上，以至于有一个大鼓能够穿过宝塔之下滚来滚去。该宝塔显得十分优美，十分神奇。于是村民们将此事相传出去，说“这座宝塔是神仙帮忙建造的，是上天赐给碧差汶府班坡镇的瑰宝”。时光荏苒，在饱经了多年的沧桑后，宝塔也慢慢的遭到了自然灾害的腐蚀。这使得在宝塔地基下的空隙处逐渐沉积了很多的土石泥沙，导致宝塔和地面之间的空挡逐步缩减，曾经可以任由大鼓在其下任意穿梭的空间，如今只能足够容纳一只小小的母鸡在里面搭窝。

แปลและเรียบเรียงโดย      : นางสาวปัณฑิตา อัคมาศ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มรภ.เพชรบูรณ์ รหัส 641102206116
                                         นางสาวศรุตา มหาราช นักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มรภ.เพชรบูรณ์ รหัส 641102206119
                                         อาจารย์ตรีศูล เกษร อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาจีน มรภ.เพชรบูรณ์
ที่มาของต้นฉบับภาษาไทย : หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย