พบปัญหา Clipboard History หายบน Windows 11 24H2 และบั๊กแสดงผลผิดพลาดบน Windows Cleanup

on October 30, 2024

พบปัญหา Clipboard History หายบน Windows 11 24H2 และบั๊กแสดงผลผิดพลาดบน Windows Cleanup

การออกอัปเดตของระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ นั้นมักจะเป็นการออกมาด้วยจุดประสงค์คือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย, อุดช่องโหว่ต่าง ๆ, เพิ่มฟีเจอร์ ไปจนถึงแก้บั๊กต่าง ๆ แต่หลายครั้งก็กลับเป็นการเพิ่มบั๊กใหม่เสียเอง

จากรายงานโดยเว็บไซต์ Windows Latest ได้รายงานถึงการตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการอัปเดต Windows 11 ขึ้นเป็น Windows 11 24H2 ที่ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาข้อมูลที่บันทึกบน Clipboard ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้งานการคัดลอกที่เกิดจากการกดปุ่มอย่าง Ctrl+C หรือคลิกขวาแล้วเลือก Copy นั้นหายไป ทำให้เมื่อทำการวางเช่นคลิกเลือก Paste หรือกด Ctrl+V นั้นไม่สามารถทำได้

ภาพจาก : https://www.windowslatest.com/2024/10/16/windows-11-24h2-clipboard-history-blank-disk-cleanup-reporting-issues/

โดยในการตรวจสอบปัญหานี้นั้น ทางทีมงาน Windows Latest ได้ทำการทดสอบด้วยการทดลองคัดลองข้อมูล และเข้าส่วนของ Clipboard History ด้วยการกดปุ่ม Windows+V นั้น ผลที่ออกมาคือ หน้าจอ History ได้แสดงผลว่าไม่มีข้อมูลใดถูกบันทึกไว้เลย โดยได้มีผู้ใช้งานได้ทำการกล่าวถึงปัญหาดังกล่าวในหลากชุมชนออนไลน์ เช่น บนเว็บบอร์ดต่าง ๆ และบน Facebook ทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจในกรณีนี้คือ ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ทางนักทดสอบได้ทำการรายงานให้กับทางไมโครซอฟต์ผ่านโครงการ Windows Insider Program มาแล้วถึง 3 เดือนก่อนการปล่อยให้ใช้งานจริง แต่ปัญหาดังกล่าวกลับยังไม่ถูกแก้ไขแต่อย่างใด

ทางแหล่งข่าวยังได้แนะนำให้ผู้ที่ประสบปัญหาดังกล่าว ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ระหว่างที่รออัปเดตใหม่ที่จะออกมาเพื่อจัดการกับปัญหา Clipboard History ในอนาคต

เข้าส่วน Settings
จากนั้นเข้าส่วน System และเลือก Clipboard
จากนั้นกดปิดแท็บ Suggested Action ถ้าถูกเปิดอยู่
ในส่วนของ Clipboard History ไม่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใด ๆ หลังจากนั้นให้กด Windows+V เพื่อเปิด Clipboard History ขึ้นมา ข้อมูลที่ทำการคัดลอกก็จะเริ่มแสดงผล
หลังจากนี้ก็สามารถเปิดแท็บ Suggested Action ขึ้นมาได้ โดยที่ Clipboard History กลับมาทำงานอย่างเป็นปกติ

ไม่เพียงเท่านั้น ทางแหล่งข่าวยังได้รายงานอีกว่า ผู้ใช้งาน Windows 11 รุ่นล่าสุดนี้ยังต้องประสบปัญหาที่ Disk Cleanup ได้แสดงผลผิดพลาดว่ามีการเก็บไฟล์ขยะอยู่ถึง 8.63 GB ในส่วนของ Windows Update Cleanup ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้งานหลายรายว่าจะเสียพื้นที่ไปฟรี ๆ แต่จากการที่ทาง Windows Latest ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ตัวระบบไม่ได้มีการใช้งานพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์อย่างที่ได้แสดงผลผิดพลาดไว้จริง ๆ และในปัจจุบันทางไมโครซอฟต์เองก็รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำการออกอัปเดตใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้