ความรักเป็นทักษะ
ที่มา :: https://sirichaiwatt.com/
จำได้ไหมว่าปั่นจักรยานครั้งแรกรู้สึกอย่างไร? ทำกับข้าวครั้งแรกออกมาเป็นแบบไหน? กว่าจะใช่โปรแกรมหนึ่งได้คล่องนานเท่าไร? กว่าจะกล้าพูดต่อหน้าคนมากมาย และอีกหลายอย่างที่ล้วนเป็นทักษะ แล้ว.. ความรักล่ะ คิดว่าเป็นทักษะไหม?
เราต่างนิยามความรักแตกต่างกัน บางคนมองว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามความรู้สึกตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องนิยามอะไรมากนัก หลายคนเป็นความคาดหวัง หลายคนเป็นเพียงปมในใจ บ้างก็คิดว่าควรเข้าใจมันให้มากขึ้น บ้างก็คิดว่าควรคาดหวังให้น้อยลงแทน แต่สิ่งหนึ่งที่ดูคล้ายกันคือ ประสบการณ์สอนเราเสมอ
“ทักษะ” คือความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ซึ่งเข้าใจโดยทั่วกันว่ามันฝึกฝนกันได้และเรียนรู้ได้ ถ้าบอกว่าความรักเป็นทักษะ อย่าเพิ่งตีความว่าต้องฝึกมีความรัก ต้องมีหลายครั้ง ต้องมีแฟนหลายคน เพราะหลายสิ่งมีคนเคยฝึก เคยผ่าน เคยมีประสบการณ์จนเข้าใจมาก่อนทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเรามอง เราฟัง สังเกต เราคิดตาม เราสนใจบ้างไหม ดังเช่น หลายทักษะที่การฝึกการซ้อมนั้น ก็มิใช่การลงสนามจริง แต่คือการเตรียมความพร้อมให้ดีพอ เพราะเมื่อถึงเวลา มีโอกาส เจอสถานการณ์ต่าง ๆ เราต้องรับมือได้
หากไม่คิดสักนิดว่า รักควรเป็นทักษะ แล้วใช้เพียงความอ่อนไหวนำไป อะไร ๆ ไม่แน่นอนย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าเข้มแข็งพอก็ไม่เป็นไร แต่ที่จริงเพราะอ่อนไหวมิใช่หรือ แล้วคนอ่อนไหวจะแบกรับความผิดพลาด ผิดหวังอย่างไร?
ถ้ามองรักเป็นทักษะ เราก็จะเข้าใจว่าต้องรักให้เป็น รักไม่เป็นก็จะเจ็บตัว เสียเวลา และอีกหลายอย่างคล้ายการทำเรื่องสำคัญ โดยขาดความรู้ ประสบการณ์…
ไม่สำคัญหรอกว่ารักต้องเป็นทักษะแบบไหน หรือต้องเก่งอะไรบ้าง อย่างน้อยควรเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจที่ดีว่า ไม่มีรักใดทำได้ดีทันทีในตอนแรก ไม่ต่างจากการลงมือทำอะไรครั้งแรก ต้องมีปรับ มีเปลี่ยน มีเรียนรู้ หรือรักครั้งหนึ่งแล้วจะถึงเส้นชัยมันแทบเป็นไปไม่ได้ แม้คนที่เกิดมามีแฟนคนเดียวจนแก่ เขาก็ผ่านอะไรมากมาย บางเรื่องคนอื่นก็ไม่มีวันได้รู้ มีแม้กระทั่งลึก ๆ ในใจอยากย้อนไปเริ่มใหม่ แต่มาไกลเกินกว่าจะย้อนไปได้แล้วก็มี ไม่ว่าสุดท้ายจะอยากกลับไปเปลี่ยนหรือไม่ แต่ละคู่ แต่ละคนย่อมเหมือนได้ฝึกฝน อดทน พยายามในหลายอย่างไม่ว่ายากหรือง่าย เพื่อให้ได้มาในวันนี้ ซึ่งบางทีแม้หลายปีผ่านไป ณ เวลานี้ก็ยังต้องฝึกที่จะเรียนรู้กันอยู่ดี
เมื่อมองรักเป็นทักษะ เราก็จะเข้าใจว่าต้องรักให้เป็น รักไม่เป็นก็จะเจ็บตัวมาก เสียเวลามาก และอีกหลายอย่างทั้งทางตรงและทางอ้อม คล้ายการทำเรื่องสำคัญโดยขาดความรู้ ประสบการณ์ และบนความเข้าใจนี้ เมื่อเกิดผิด เกิดพลาดไปบ้างก็จะสอนให้เราเข้าใจได้ว่า ผิดเพื่อพัฒนา พลาดคือความเข้าใจที่มากขึ้นไม่ต่างจากการพัฒนาทักษะอื่น ๆ เพราะผลลัพธ์สุดท้ายคือตัวเราได้ก้าวหน้า มีความสุขมากขึ้นไปในแต่ละการเปลี่ยนแปลง
ทักษะอื่น ๆ อาจทำให้เราเป็นคนเก่ง แต่ความรักเราคงไม่เก่งกันได้จริง จีบเก่ง, เอาใจเก่ง, เก่งเรื่องบนเตียง, เก่งเรื่องการวางตัวหรือความสัมพันธ์ กระทั่งอดทนเก่ง มันอาจเป็นเพียงองค์ประกอบที่ส่งเสริมให้คู่ชีวิตดีขึ้นได้ แต่ก็ไม่การันตีอยู่ดีว่ารักนั้นจะยืนยาว เพราะสิ่งที่ควบคุมไม่ได้คือจิตใจของอีกฝ่าย ที่ย่อมมีผลต่อทุกอนาคตในเรื่องนี้…
การพัฒนาทักษะมักเริ่มจาก ได้ทำ ลองทำ และทำซ้ำ แต่การทำซ้ำๆ โดยไม่เรียนรู้ บนปัจจัยเดิม ๆ นั้น มันคงไม่ช่วยพัฒนาทักษะได้ ความรักก็เช่นกัน การพยายามเปลี่ยน ปรับ แต่ยื้อย่ำที่เดิมกับผลลัพธ์เดิม ๆ คงเห็นชัดว่าเราไม่ได้พัฒนาในเรื่องนี้เลย
และ
สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการพัฒนาทักษะ การได้เปลี่ยนมันอาจทำให้ก้าวหน้าขึ้นได้มากมาย เพียงแต่สิ่งแวดล้อมเรื่องนี้อาจไม่ใช่ที่ภายนอกหรือคนอื่นเสมอไป มันอาจมีปัญหาเริ่มจากสิ่งแวดล้อมทางความคิดในใจเราเองก็เป็นได้เช่นกัน เหมือนแค่ลองมองว่าบางที “ความรักควรเป็นทักษะ” อย่างหนึ่ง ซึ่งเราพัฒนาได้ ใช่ว่าต้องยึดติดตรงนี้ วันนี้ เท่านี้ ก็อาจเปลี่ยนมุมมองความรักที่มีได้ตลอดไป…