เป้าหมายระยะสั้น อาจสำคัญกว่าต้อง SMART
บ่อยครั้งกับเรื่อง “เป้าหมาย” ที่บทความหรืออะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองมักเน้นเสมอ และอาจได้ยินบ่อย ๆ ว่า เป้าหมายที่ดีต้อง SMART* หลายคนอาจเริ่มเบื่อ หลายคนเริ่มสงสัยว่าสำคัญขนาดนั้นหรือ หลายคนเริ่มเข้าใจ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป้าหมายแบบไหน ก็มักคล้ายก่อกองทรายที่ไม่นานก็พังทลายลง เพราะบางทีเป้าหมายระยะสั้นอาจจำเป็นกว่า
ขอยกตัวอย่างแบบกระชับ “อยากมีเงินเก็บ 1 ล้านไหม?” สำหรับคนที่ยังติดลบ, เดือนชนเดือน หรือแต่ละเดือนเหลือไม่กี่ร้อย คงตอบว่า “อยาก.. (แบบถอนหายใจ)” เพราะมันสะท้อนถึงความรู้สึกไกลเกินจริง นี่คืออุปสรรคแรก ทันทีที่เรามองปัจจุบัน ก็ประเมินได้ว่า “อย่าดีกว่า” กับเป้าหมายนั้น ซึ่งก็ใช่ อะไรที่เกินตัวมันดูเพ้อฝัน
ครั้นพอบอกว่า “อยากมีเงินเก็บ 5 พันไหม?” เราคนเดิมก็ส่ายหัว เพราะรู้สึกเสียเวลา แค่นี้แป๊บเดียวก็หาได้ ซึ่งก็ใช่… แต่เอ๊ะ!! มันย้อนแย้งไหม? ในเมื่อเดิมแต่ละเดือนเหลือไม่เท่าไรแล้วทำไม 5 พันคิดว่าทำได้ คำตอบในหัวอาจมีหลากหลาย แต่อย่างหนึ่งที่คงแอบคิดในใจคือ “ก็มันไม่มากเท่าไร..”
คำถามที่อยากชวนคิดต่อ แล้วก่อนจะไป 1 ล้านเราต้องผ่าน 5 พันก่อนไหม?.. ใช่มันต้องผ่าน!
อีกคำถามต่อเนื่อง แล้ว 200 ล่ะมากไหม?.. เทียบกับ 1 ล้าน หรือ 5 พัน มันก็ไม่มากอะไร
งั้น.. คิดดูนะ 5 พัน 200 ครั้ง มันก็ได้ 1 ล้านแล้ว…
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจใจพองขึ้นมา หลายคนฉุกคิด หลายคนพยักหน้า สรุปเลยแล้วกันว่า อย่าเพิ่งไปคิด 1 ล้าน คิดเก็บทีละ 5,000 ไปให้ได้สักพักก็ใกล้เคียงความจริงได้แล้ว ความเป็นไปได้ชัดเจนขึ้นไหม?
เป้าหมายระยะสั้น และ ระยะยาว
จากตัวอย่างคงพอเห็นได้ว่า เป้าหมายแท้จริงมักยาว, ไกล, และยิ่งใหญ่เสมอ เพราะถ้ามันเป็นเรื่องเล็กเรื่องง่าย เราก็ไม่อยากนับมันว่าเป็นเป้าหมายคล้ายกับ 5 พัน และนั่นเอง คือสิ่งที่หลงลืมไป เพราะแท้ที่จริงแล้วสำหรับหลายคน ก่อนจะ 5 พันมันก็ต้อง 5 ร้อยมาก่อน เราจะเดิน 10 กิโล ก็ต้องมีก้าวแรกมาก่อน จะว่าไปเรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้ แต่มันสำคัญตรง “ทัศนคติ” และมุมมองต่อเป้าหมาย ที่ไม่ต้องอาศัยเรื่อง S.M.A.R.T. ก็ได้ด้วยซ้ำ
ถ้าเป้าหมายระยะยาวมันอยู่ไกล เสมือนเห็นทางไกลแล้วท้อ ก็อย่าเพิ่งไปเพ่ง ไปมองมากนัก แต่ต้องมีไว้ มิเช่นนั้นเราก็ไม่สามารถแบ่งมันออกมาตั้งเป็น “เป้าหมายระยะสั้น” ที่พอให้เรามองเห็นได้, ตั้งใจ และทำได้ อาจเป็นเหมือนหลักกิโลที่สะสมระยะทาง ซึ่งการสะสมใด ๆ สิ่งที่ยากคือความสม่ำเสมอ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ก็คือการสะสมของทุกความสำเร็จเล็กน้อยเข้าด้วยกันจนมากขึ้น…
การพัฒนาตนเองก็เริ่มจากการทำสิ่งหนึ่งซ้ำ ๆ.. แต่ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่แค่ได้ทำ “แผนงาน-แผนการ” (Plan) บางทีจึงไม่สำคัญเท่า “รายการที่ต้องทำ (To-do lists)” แค่ในวันนี้ แล้วทำให้สำเร็จเสียก่อน
ยิ่งชีวิตสับสน ปัจจัยมาก จะอ้างอย่างไรก็ได้ ก็แค่ให้รู้ว่าเป้าหมายระยะสั้นตอนนี้มีอะไร ทำไปทีละเรื่อง ทีละอย่าง อย่างไรก็พัฒนา แต่หากมีเป้าหมายระยะยาวประเภทคาดหวังว่าพรุ่งนี้โลกจะต้องเปลี่ยนไป ก็ไม่ต่างกับการฝันถึงเงินล้านวันพรุ่งนี้ให้ได้ ในขณะที่ทั้งเดือน 5 พันยังลำบาก เช่นนี้ไม่มีใครหลอกเรา เราหลอกตัวเอง ไม่มีใครทำให้เราท้อ เราบั่นทอนตัวเอง..
และหรือที่จริงเป้าหมายระยะไหนก็ไม่สำคัญ อยู่ที่ใจเรามองมันอย่างไร ว่าชีวิตต้องการอะไร แล้ววันนี้เราทำอะไร…
*การกำหนดเป้าหมายแบบ S.M.A.R.T. (SMART Goal) (บทเสริม)
การกำหนดเป้าหมายที่ดีมีหลักการหนึ่งคือ การกำหนดเป้าหมายแบบ S.M.A.R.T. หรือ SMART goal กล่าวคือต้องประกอบไปด้วย
S: Specific = จำเพาะเจาะจง มีความชัดเจนเข้าใจได้ว่า เรื่องอะไร หรือจะไปไหน ได้แค่ไหน เรื่องใด สิ่งใด ไม่เช่นนั้นก็จะคลุมเครือ เข้าใจยาก สับสน เช่น มีเป้าหมายหลายเรื่องรวมกัน ปัจจัยมาก ควบคุมยาก ทำจริงก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
M: Measurable = วัดผลได้ เพราะการตั้งเป้าหมายที่วัดไม่ได้ก็เลื่อนลอย เช่น อยากรวย แค่ไหนคือคือรวย? อยากเดินทางไกล ไกลคือกี่กิโล? เมื่อไม่รู้จำนวน ตอนลงมือทำจริงก็จะยาก เพราะวางแผนไม่ได้ หาเส้นชัยไม่เจอ
A: Achievable = ทำได้จริง ก็ต้องไม่ลืมดูศักยภาพกับสิ่งที่มีอยู่ ว่าเหมาะสมกับเป้าหมายนั้นไหม ฝันใหญ่เป็นเรื่องดี แต่บางทีก็มีเส้นบาง ๆ ระหว่างฝันไกล กับฝันเฟื่อง
R: Relevant = สมเหตุสมผล หรือเชื่อมโยง แม้ว่าจะทำได้จริง วัดผลได้ แต่บางเป้าหมายก็ไม่จำเป็น ไม่เหมาะสม หรือดีต่อเราจริงในระยะยาว พูดง่าย ๆ ก็แค่ชวนให้ทบทวนว่าเป้าหมายนี้คือสิ่งที่เราต้องการแท้จริงหรือไม่
T: Time-bound = เงื่อนเวลา ที่จะมาเป็นกรอบชี้ให้เราเห็นว่าเป้าหมายนี้จะเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใดตั้งแต่ตั้งเป้าหมาย ไปจนถึงพิจารณาได้ทันทีว่าขาดพร่องหรือต้องเติมเรื่องใดเพื่อให้เป้าหมายเป็นจริงได้ เพราะหากไม่มีเวลากำกับ ก็ลำดับความสำคัญไม่ได้ มันก็ผ่านไปเหมือนกับเป้าหมายไม่เคยมีอยู่ดี
จากทั้งหมดจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกัน การตั้งเป้าหมายให้ SMART เป็นการตั้งเป้าหมายที่ดีมาก เพราะอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงในทุกด้าน คนที่วางแผนบ่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องมานั่งไล่เรียงสิ่งเหล่านี้ เพราะจะมีอยู่ในหัวอยู่แล้วเหมือนทักษะติดตัว (Passive skill) แต่คนที่ไม่เคย ไม่เข้าใจ อาจต้องค่อย ๆ ดูไปทีละข้อ เพียงแต่..
สำหรับหลายคนที่ง่าย ๆ กับชีวิตมานาน จะเปลี่ยนไปวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน คิด วิเคราะห์ไกลให้ทำก็คงไม่ชอบ ไม่อยาก ไม่ถนัด (ไม่งั้นคงไม่เป็นเช่นนี้) เอาเป็นว่าวางแผนใกล้ ๆ พรุ่งนี้ควรทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างเป็นใช้ได้ สำเร็จทุกวันไม่ก้าวหน้าให้รู้ไป จึงเป็นเหตุให้เป้าหมายระยะสั้น อาจสำคัญกว่า S.M.A.R.T.
บทความฉบับปรับปรุง เผยแพร่ครั้งแรก Facebook Sirichaiwatt เมื่อ 28/04/2023