META ซุ่มพัฒนา Search Engine แบบใช้ AI หวังโค่นบัลลังค์ Google

21442 2411051652180Y

META ซุ่มพัฒนา Search Engine แบบใช้ AI หวังโค่นบัลลังค์ Google

สงครามเครื่องมือสำหรับการค้นหาข้อมูล หรือ Search Engine เรียกได้ว่าเงียบหายไปนานมากนับตั้งแต่ Google ได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกพร้อมกับการล่มสลายของ Yahoo แต่ด้วยการเข้ามาของ AI และผู้เล่นใหม่ ๆ ที่มีความโดดเด่นในด้านการพัฒนาสายนี้นั้น ทำให้สงครามแย่งส่วนแบ่งตลาดในวงการนี้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง

จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Verge ได้อ้างอิงรายงานจาก The Information ถึงการที่ทาง META ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโซเชียลมีเดียชื่อดัง Facebook รวมทั้งเป็นเจ้าของ Instagram และ Whatsapp ได้มีการซุ่มพัฒนาแชทบอท (Chatbot) ที่ใช้ AI ในการทำงานตัวใหม่ โดย Chatbot ตัวใหม่นี้นอกจากจะพูดคุยถามตอบกับผู้ใช้งานได้แล้ว ยังมีความสามารถในการทำงานเพื่อค้นหาเว็บไซต์ และสิ่งต่าง ๆ แบบ Search Engine อีกด้วย ซึ่งทาง The Information ได้รายงานว่า จุดประสงค์ของการพัฒนาแชทบอทดังกล่าวนั้น มุ่งเน้นไปในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจาก Google และ Microsoft

21442 241106102646z8 14

เนื่องมาจากแชทบอทที่ทาง Meta ใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่าง Instagram ในปัจจุบันนั้น เป็นการใช้งานผ่านเทคโนโลยีของ Google และมีการเชื่อมต่อกับ Search Engine ของ Microsoft อย่าง Bing เพื่อใช้ในการค้นหาข่าวสาร และอีเว้นท์ต่าง ๆ ทำให้ทางบริษัทต้องเสียส่วนแบ่งรายได้ให้กับบริษัทคู่แข่งเป็นจำนวนมาก นำมาสู่การพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองที่มีความสามารถที่จะกลับกลายเป็นคู่แข่งของทั้ง 2 บริษัทข้างต้นได้ในอนาคต

แหล่งข่าวยังได้รายงานอีกว่า ปัจจุบันนั้นโครงการของทาง META มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน โดยได้มีการปล่อย Web Crawler (เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์) ออกไปเพื่อเก็บข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือนเพื่อสร้างฐานข้อมูลเริ่มต้นที่จำเป็น และแหล่งข่าวยังรายงานอีกว่า ทาง META ยังได้เริ่มการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างเครื่องมือที่คาดหวังว่าจะมาเป็นคู่แข่งกับ Google Map ในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีข่าวลืออีกว่าทาง Apple เจ้าของผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง iPhone และ Mac ยังได้มีการพัฒนาเครื่องมือค้นหาแบบพึ่งพาพลังจาก AI เพื่อใช้ค้นหาบนแอปสโตร์ เพื่อแทนที่การพึ่งพาเทคโนโลยีการค้นหาของ Google ที่ทาง Apple ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน อีกด้วย
ที่มา : www.theverge.com , cointelegraph.com, www.thaiware.com

Loading

Rate this post

Tags: